โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับพยาบาลวิชาชีพในการส่งเสริมสนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่: เขตภาคเหนือ
วันที่ 11 –14 พฤศจิกายน2557และวันที่ 17 – 20 กุมภาพันธ์ 2558
ณ โรงแรมดิเอมเพรสอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
****************************
1. ชื่อโครงการ :
การอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับพยาบาลวิชาชีพในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่: เขตภาคเหนือ
2. หน่วยงานที่รับผิดชอบ :
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
3. โครงการดังกล่าวตอบสนองต่อวัตถุประสงค์กลยุทธ์
ยุทธศาสตร์ที่ 3: พัฒนาการบริการวิชาการและการให้บริการบนฐานความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น
เป้าประสงค์: สร้างความร่วมมือกับเครือข่ายสถาบันการศึกษา องค์กร และหน่วยงานทั้งในและนอกท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการวิชาการและถ่ายทอดความรู้ความรู้ด้านวิชาการและวิชาชีพที่ตอบสนองความต้องการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของสังคม ชุมชน ประเทศชาติ และนานาชาติ
ตัวชี้วัดที่ 1: ผลการเรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนหรือองค์กรภายนอก
4. ประเภทโครงการ
( ) พัฒนาอาจารย์ / บุคลากร () พัฒนานักศึกษา
( ) พัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน (√) บริการวิชาการแก่ชุมชน
( ) ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
5. หลักการและเหตุผล :
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคมองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) แนะนำให้มารดาทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนหลังคลอด (exclusive breastfeeding) หลังจากนั้นให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่า ประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยได้มีการรณรงค์ให้มีการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ผลจากการสำรวจสถิติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทยทั้งในอดีตและปัจจุบันยังพบอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว อยู่ในระดับต่ำ โดยผลการสำรวจอนามัยเจริญพันธ์ในปี พ.ศ. 2552 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 15.1 ซึ่งอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ต่ำ โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านมารดา ทารก สภาพแวดล้อม รวมทั้งบุคลากรสุขภาพผู้ให้การดูแลมารดาและทารก
พยาบาลเป็นบุคลากรสุขภาพที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อีกทั้งยังมีส่วนทำให้มารดาตัดสินใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เนื่องจากพยาบาลเป็นบุคคลที่ดูแลมารดาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ คลอด และหลังคลอด รวมทั้งระยะกลับไปเลี้ยงดูทารกที่บ้านตลอดจนกลับไปทำงาน นอกจากนี้พยาบาลยังมีบทบาทในการดูแลสุขภาพทารกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระยะแรกเกิด ดังนั้นเพื่อให้การทำหน้าที่ตามบทบาทมีประสิทธิภาพ พยาบาลจึงต้องมีความรู้ ทัศนคติ และทักษะในการส่งเสริม สนับสนุน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
การที่พยาบาลจะทำหน้าที่ตามบทบาทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถให้ความรู้ และเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แก่มารดา รวมทั้งช่วยเหลือมารดาในการให้นมแม่อย่างถูกต้อง โดยให้นมแม่อย่างเดียวจนถึง 6 เดือนและให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมตามวัยจนถึง 2 ปีหรือนานกว่านั้น ตามเป้าหมายของประเทศไทยและองค์การอนามัยโลก พยาบาลต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างถูกต้อง มีทัศนคติที่ดีต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และมีทักษะเพียงพอในการช่วยเหลือมารดาและทารกที่มีปัญหาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ประกอบกับปัจจุบันองค์ความรู้และเทคโนโลยีเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีพัฒนาการอย่างมาก รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือกลยุทธ์ในการดำเนินงานเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น สภาการพยาบาล องค์การกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ และคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาพยาบาลวิชาชีพเพื่อให้มีความรู้ ทัศนคติ และทักษะในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้สอดคล้องกับองค์ความรู้และกลยุทธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้วางแผนจัดอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลของรัฐในเขตภาคเหนือ โดยมุ่งหวังให้พยาบาลวิชาชีพที่ได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปใช้ในการวิเคราะห์ประเมินปัญหา วางแผนให้ความช่วยเหลือมารดา และให้คำปรึกษาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งในภาวะปกติ และภาวะเจ็บป่วยของทั้งมารดาและทารก รวมทั้งสามารถถ่ายทอดความรู้และทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้แก่มารดา และครอบครัว นักศึกษาพยาบาล และบุคลากรสุขภาพอื่นๆที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานได้ เพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ของมารดาและทารกในการที่จะได้รับสิ่งที่ดีทีสุดสำหรับสุขภาพในระยะยาวต่อไป
6. วัตถุประสงค์ :
เพื่อพัฒนาความรู้ ทัศนคติ และทักษะ ในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลของรัฐในเขตภาคเหนือ
7. ตัวบ่งชี้ประเมินผลสำเร็จของโครงการ
7.1 จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ
7.2 ความรู้ ทัศนคติ และทักษะในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของผู้เข้าร่วมโครงการ
7.3 ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ
8. เป้าหมายวัดความสำเร็จตามตัวบ่งชี้
8,1 จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 80
8.2 ค่าคะแนนความรู้ในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 80
8.3 ค่าคะแนนทัศนคติในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 80
8.4 ค่าคะแนนทักษะในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่าร้อยละ 80
8.2 ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 3.5 จากคะแนนเต็ม 5
9. วัน เวลา และสถานที่:
วันอังคารที่ 11-วันศุกร์ที่ 14พฤศจิกายน 2557 เวลา 08.00-16.00 น.
และวันอังคารที่ 17-วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 08.00-16.00 น.
ณ โรงแรมดิเอมเพรสอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
10. ผู้เข้าร่วมโครงการ:
พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในโรงพยาบาลของรัฐเขตภาคเหนือ จำนวนรวม 260 คน โดยจัดรุ่นละ130 คน
11. งบประมาณ :
11.1 รายรับ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF)
11.2 รายจ่าย (อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจากสภาการพยาบาล)
12. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ:
12.1 ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ทัศนคติ และทักษะในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่สอดคล้องกับองค์ความรู้ที่ทันสมัย และกลยุทธ์ของประเทศที่เปลี่ยนแปลง
12.2 ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปใช้ในการส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั้งในโรงพยาบาลและชุมชน
12.3 อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพิ่มมากขึ้นในโรงพยาบาลที่พยาบาลได้เข้ารับการอบรม
13. การประเมินผล:
13.1 ประเมินจากความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนา
13.2 ประเมินจากการติดตามอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของโรงพยาบาลที่พยาบาล เข้ารับการอบรมทั้งก่อนและหลังการเข้ารับการอบรม